อาทิตย์ 10 ตุลาคม มีช่าง หม่บ้านมาซ่อม วัดสายกราวด์ ต่างๆ กันเปล่า

จากการประชุมกับทางสุดที่รัก ครั้งที่ 1 (ครั้งที่แล้ว) และมีหนังสือมาแต่ละบ้าน เห็นว่าจะให้ช่างมาซ่อม ตรวจวัดสายกราวด้ และอื่นๆ เมื่อวานอาทิตย์ 10 ตุลาคม ไม่ทราบว่า แต่ละบ้านมีช่างมาซ่อมเปล่าครับ แถวบ้านผมเห็นเงียบไป หรือแต่ละบ้านเขามีกำหนดการต่างกันครับ ซาวเสียงกันหน่อย ครับ

บ้านผมขนาดหนังสือยังไม่ได้รับเลยครับ (หนังสือที่แจ้งให้ช่างมาซ่อม ตรวจวัดสายกราวด์ และอื่นๆ นะครับ)
ไปตามที่สำนักงานเมื่อวันที่ 7 ต.ค. (เพราะกลัวว่าจะไม่ได้ตรวจในวันเสาร์-อาทิตย์) แต่ คุณบ. บอกว่าเดี๋ยวให้เด็กเอาไปหย่อนที่ตู้ให้
รอจนวันจันทร์ก็ไม่มีอะไรในตู้จดหมายเลย
จดหมายนะไม่ได้รับนะครับ สงสัยคงจะลืม แต่บิลค่าน้ำ-ค่าขยะ ดันไม่ลืม เซ็งจริงๆ

บ้านผมก็ ยังไม่มาครับ (เช็ค บ่อดักไขมัน, สายกราวน์กันไฟฟ้ารั่ว, ไฟฉุกเฉิน)


ส่วนเรื่องที่แจ้งซ่อมไป 2 ครั้งนั้น มาแต่ซ่อมยังไม่ครบ ก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะมาทำอีก นี่ก็ประมาณ 1 เดือนแล้ว

อุตส่าหาคนมาเฝ้าบ้านแทนได้ น่าโมโหจริงๆเลย

ผมต้องปิดร้าน มานั่งรอ ตั้งแต่ 11 โมง ถึงสี่โมง ก็ไม่มีใครมาตรวจ และไม่มีใครคิดจะมาแจ้งใดๆกับพวกเราเลย ทั้งที่ขับรถกอล์ฟผ่านไปผ่านมา กันตั้งสี่ห้ารอบ ตั้งแต่รากหญ้าถึงหัวหน้าใหญ่ เฮ้อ ทำงานกันยิ่งกว่าเด็กเล่นขายของอีกครับงานนี้ เสียความรู้สึกสุดๆ

ไม่มีครับ นั่งตบยุงรอกันทั้งวัน ไม่แจ้ง ไม่สนใจใดๆทั้งสิ้น ประทับใจมาก

ไม่มาก็น่าจะแจ้งกันหน่อยนะ แล้วจะทำแบบฟอร์มนัดกันทำไม ชุ่ย มากกกกกกกก l:

เหมือนกัน ไม่เห็นมาตามนัดที่ให้กรอกในแบบสำรวจ ต้องเลือนนัดธุรแต่ก็ไม่มา แล้วก็ไม่โทรแจ้งเลย ไม่ใช่ว่าไม่มีเบอร์แต่ละบ้าน

เสียความรู้สึกมาก ๆๆ ไม่เป็นทีมงานมืออาชีพเลย

ติดตามช่าวหน่อยครับ ไม่ทราบว่าหลังจากนั้นทางช่างโครงการ มาทำการวัดสายกราวน์ หรือที่บอกว่าจะติดตั้งไฟฉุกเฉินอะไรนั้นนะ
มันเงียบหายไปแล้ว หรือว่าบางทานทางโครงการมาทำการตรวจเช็คให้ครับ

บ้านผมทางโครงการมาติตตั้ง ไฟฉุกเฉินให้แล้ว ครับ
แตระบบสายกราวน์ไฟฟ้า ดำเนินการเองครับไม่มั่นใจช่างโครงการครับ จากการเข้าตรวจสอบระบบไฟฟ้า ที่บ้านเห็นแล้วพบว่าไม่ได้ใช้ช่างมืออาชีพมาทำครับ คิดแต่จะเอากำไรอย่างเดียว การต่อสายกราวน์จากชุดไฟฟ้าเครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น ที่ทางโครงการทำไว้ให้และเดินสายมายังตู้ Control หรือ ตู้ไฟฟ้าของบ้านก็ต่อผิดไปอยู่ในต่ำแหน่ง ของ N มั่วไปหมด แท่งทองแดงสำหรับสายกราวน์ก็ไม่ได้ตอกไว้ให้
ส่วนบ่อดักไขมันก็ยังไม่เห็นครับ
ขอฝากประเด็น ถังขยะครับ ฝาปิดไม่เหมือนกัน จากดูคุณภาพวัสดุที่ใช้ แบบ เฟส 1 ผมว่า มีมาตรฐานกว่านะครับ ช่วยกันเรียกร้องให้ทำให้เหมือนกันหน่วยนะครับ

แต่ตอนนี้ผมบอกได้คำเดียวครับ ว่าทำใจแล้วครับที่หลงซื้อโครงการนี้

ไม่ทราบว่าพอมีวิธีตรวจสอบระบบไฟเบื้อต้นที่สามรถทำได้เองหรือป่าวครับ แบบว่ามีมิเตอร์อันนึงก้ตรวจได้อะไรแบบนี้ครับ เช็คว่ามีการต่อกราว์น หรือป่าว

การต่อลงดิน (Ground) หมายถึง การต่อตัวนาระหว่างวงจรไฟฟ้าหรือบริภัณฑ์กับดินหรือส่วนที่เป็นตัวนาซึ่งทาหน้าที่แทนดิน การต่อลงดินมีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่วที่มีสาเหตุมาจากการชารุด หรือเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาโดยที่เราไม่สามารถทราบล่วงหน้าได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันอันตรายแก่ผู้ใช้ที่อาจจะเข้าไปสัมผัสและถูกกระแสไฟฟ้าดูด โดยกระแสไฟฟ้าที่รั่วจะไหลลงดินแทนการไหลผ่านร่างกายของผู้ที่เข้าไปสัมผัส ดังนั้นการต่อลงดินจึงเป็นวิธีการป้องกันที่ดีที่สุด
การต่อลงดินที่ระบบสายส่งไฟฟ้า การต่อลงดินที่ระบบสายส่งไฟฟ้า เป็นวิธีการที่ทาการต่อสายนิวทรัล (Neutral) ที่ระบบสายส่งไฟฟ้าลงดินโดยผ่านหลักสายดิน (Ground rod) การต่อลงดินวิธีนี้สามารถทาได้ทั้งไฟฟ้าระบบ 1 เฟส และไฟฟ้าระบบ 3 เฟส

วิธีการต่อลงดินที่ระบบสายส่งไฟฟ้า จะเป็นการต่อสายนิวทรัลลงดิน โดยการปฏิบัติจะต้องต่อสายนิวทรัลโดยใช้หลักสายดินเป็นตัวนาผ่านลงดิน หลักสายดินที่ใช้จะเป็นแท่งตัวนาที่ฝังลงไปในดินโดยหลักสายดินจะเป็นแท่งเหล็กชุบสังกะสียาว 8 ฟุต และมีเส้นผ่านศูนย์กลาง ¾ นิ้ว หรือแท่งทองแดงยาว 8 ฟุต และมีเส้นผ่านศูนย์กลาง ½ นิ้ว ตอกลงในดินลึกจากผิวหน้าดินอย่างน้อย 1 ฟุต สาหรับข้อกาหนดอื่นๆ ที่เกี่ยวกับสายดิน และหลักดินนักศึกษาสามารถศึกษาได้จากมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้า

การต่อลงดินที่ตัวอุปกรณ์ 2.1 การต่อลงดินแบบนี้จะเป็นการต่อลงดินที่โครงของเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยตรง ซึ่งการต่อลงดินวิธีนี้โดยส่วนใหญ่จะใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ผู้ผลิตได้ติดตั้งจุดสาหรับการต่อลงดินไว้ให้เรียบร้อยแล้วเช่น ตู้เย็น , เตาไมโครเวฟ หรือเครื่องซักผ้า เป็นต้น

วิธีติดตั้งระบบสายดินที่ถูกต้อง
1.จุดต่อลงดินของระบบไฟฟ้า (จุดต่อลงดินของเส้นศูนย์หรือนิวทรัล) ต้องอยู่ด้านไฟเข้าของเครื่องตัดวงจรตัวแรกของตู้เมนสวิตช์ 2.ภายในอาคารหลังเดียวกันไม่ควรมีจุดต่อลงดินมากกว่า 1 จุด 3.สายดินและสายเส้นศูนย์สามารถต่อร่วมกันได้เพียงแห่งเดียวที่จุดต่อลงดินภายในตู้เมนสวิตช์ ห้ามต่อร่วมกันในที่อื่น ๆ อีก เช่น ในแผงสวิตช์ย่อยจะต้องมีขั้วสายดินแยกจากขั้วต่อสายศูนย์ และห้ามต่อถึงกันโดยมีฉนวนคั่นระหว่างขั้วต่อสายเส้นศูนย์กับตัวตู้ซึ่งต่อกับขั้วต่อสายดิน 4.ตู้เมนสวิตช์สาหรับห้องชุดของอาคารชุดและตู้แผงสวิตช์ประจาชั้นของอาคารชุดให้ถือว่าเป็นแผงสวิตช์ย่อย ห้ามต่อสายเส้นศูนย์และสายดินร่วมกัน 5.ไม่ควรต่อโครงโลหะของเครื่องใช้ไฟฟ้าลงดินโดยตรง แต่ถ้าได้ดาเนินการไปแล้วให้แก้ไขโดยมีการต่อลงดินที่ เมนสวิตซ์อย่างถูกต้องแล้วเดินสายดินจากเมนสวิตช์มาต่อร่วมกับสายดินที่ใช้อยู่เดิม 6.ไม่ควรใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ชนิด 120/240 V กับระบบไฟ 220 V เพราะพิกัด IC จะลดลงประมาณครึ่งหนึ่ง 7.การติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่ว จะเสริมการป้องกันให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เช่น กรณีที่มักจะมีน้าท่วมขัง หรือกรณีสายดินขาด เป็นต้น และจุดต่อลงดินต้องอยู่ด้านไฟเข้าของเครื่องตัดไฟรั่วเสมอ 8.ถ้าตู้เมนสวิตช์ไม่มีขั้วต่อสายดินและขั้วต่อสายเส้นศูนย์แยกออกจากกัน เครื่องตัดไฟรั่วจะต่อใช้ได้เฉพาะวงจรย่อยเท่านั้น จะใช้ตัวเดียวป้องกันทั้งระบบไม่ได้ 9.วงจรสายดินที่ถูกต้องในสภาวะปกติจะต้องไม่มีกระแสไฟฟ้าไหล 10.ถ้าเดินสายไฟในท่อโลหะ จะต้องเดินสายดินในท่อโลหะนั้นด้วย 11.ดวงโคมไฟฟ้าและอุปกรณ์ติดตั้งที่เป็นโลหะควรต่อลงดิน มิฉะนั้นต้องอยู่เกินระยะที่บุคคลทั่วไปสัมผัสไม่ถึง (สูง 2.40 เมตร หรือห่าง 1.50 เมตร ในแนวราบ)
12.ขนาดและชนิดของอุปกรณ์ระบบสายดิน ต้องเป็นไปตามมาตรฐานกฎการเดินสายและติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง